หลังจากที่พ่อแบมยืนยันเรื่องเวลาว่า เจอลุงพลที่สวนยางใกล้บ้านในเวลา 9 โมงกว่าๆ ในวันที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น ด้านนายประวิทย์ วะไลใจ ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องที่พ่อแบมบอกว่า เจอลุงพลที่สวนยางในเวลา 9 โมง ส่วนลุงพลแย้งว่า เจอกันตอน 7 โมง ตนมองว่ามีความเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง ซึ่งตนให้น้ำหนักครึ่งๆเพราะพ่อแบมอาจจะได้เจอกับลุงพลจริงๆตามที่เขาพูด
แต่ตนไม่มั่นใจเรื่องเวลาว่าจะตรงหรือไม่ เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่พ่อแบมจะจำเวลาคลาดเคลื่อนแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพ่อแบม ซึ่งตนก็มีความสนิทกับลุงพลและพ่อแบมเท่ากันทั้ง 2 คน แต่ตนก็เชื่อว่าพ่อแบมนั้นเห็นลุงพลจริงๆเพราะลุงพลก็ยอมรับว่าอยู่สวนยางจริงๆเพียงแต่เรื่องเวลาไม่ตรงกัน ส่วนเรื่องเวลาตนรับประกันไม่ได้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ตนคิดว่า จะมีความชัดเจนมากกว่าเดิมต่อเมื่อ พล.อ.เอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขึ้นรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยในทางคดีจะออกได้ทั้ง 3 ทาง คือออกหมายจับ, ชะลอคดีและสรุปว่าเด็กไปตายเอง
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจ เขาอาจจะมีข้อมูลเยอะ แต่คิดว่าคำพูดของพ่อแบมไม่ได้มีผลต่อคดีทั้งหมด เพราะต้องมีหลักฐานอย่างอื่นประกอบด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจต้องมีหลักฐานมากพอสมควร ตนยกตัวอย่างเรื่องลุงสงบ คนเร่ร่อนที่ทางอมรินทร์ไปเจอ

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ซึ่งตำรวจไม่เคยตามเรื่องลุงสงบเลย จึงมีความเป็นไปได้ว่า ตำรวจมีหลักฐานอื่นๆมากกว่าที่เรารู้ จึงไม่สนใจลุงสงบ เมื่อสรุปความน่าเชื่อถือจากคำให้การของพ่อแบม สำหรับนางสาวิตรี บอกว่า ไม่ขอออกความคิดเห็น
ขอบคุณที่มา รายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ทีวี